นโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว  


1. บทนำ 


บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัทฯ”) เป็นผู้นำสั่งและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเกี่ยวกับการดูแลผิวหนังและโรคเกี่ยวกับผิวหนังรวมไปถึงด้านสุขภาพความงาม ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นของท่านในฐานะที่ท่านเป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ลูกค้า ผู้เข้ารับการรักษา หรือผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ นำสั่งและจำหน่าย หรือบุคคลอื่นใดตามที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องติดต่อด้วย  
บริษัทฯ เคารพข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ”) อย่างเต็มที่ และในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างโปร่งใส ให้สอดคล้อง และเป็นไปตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด ตลอดจนดำเนินการเพื่อให้มั่นใจได้ว่า พนักงานของบริษัทฯ จะจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะเดียวกัน  
“นโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัว” ฉบับนี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการรับรองการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ของบริษัทฯ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  


2. ข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้างที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่าน ? 


2.1 “ข้อมูลส่วนบุคคล” คืออะไร ?  
ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ข้อมูลส่วนบุคคลไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม 


2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย 
ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่านมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับบริบทความสัมพันธ์ในทางธุรกิจที่ท่านมีกับบริษัทฯ ตัวอย่างประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่าน มีดังนี้ 
1.    หากท่านเป็น “ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ” บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน ได้แก่ ชื่อ-สกุล ชื่อกลาง ที่อยู่ เพศ อายุ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบประกอบวิชาชีพ สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร ประวัติส่วนตัวโดยย่อ (Resume/CV) ตำแหน่ง ความเชี่ยวชาญ สังกัด รายละเอียดหนังสือเดินทาง บัญชีธนาคาร ข้อมูลติดต่อ (เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล) ลายมือชื่อ ตลอดจนถึงภาพถ่ายของท่านที่บริษัทฯ บันทึกระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ  
2.    หากท่านเป็น “ลูกค้า” และ “ผู้เข้ารับการรักษา” หรือ “ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์” บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน ได้แก่ ชื่อ-สกุล ชื่อกลาง ที่อยู่ เพศ อายุ ข้อมูลการติดต่อ (เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล) ข้อมูลที่ท่านกรอกในการให้ความยินยอมเข้ารับการรักษา ข้อมูลเกี่ยวกับอาการหรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ลักษณะการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ น้ำหนัก วันเดือนปีเกิด สัญชาติ การวินิจฉัยของแพทย์เบื้องต้นที่เกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับอาการหรือเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์นั้น ลายมือชื่อ ตลอดจนถึงภาพถ่ายของท่านที่บริษัทฯ บันทึกระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัทฯ  
3.    หากท่านเป็น “ผู้เข้าเยี่ยมชม/ผู้ใช้บริการเว็บไซต์” ของบริษัทฯ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน ได้แก่ชื่อ-นามสกุล ชื่อกลาง เพศ หมายเลขใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ วันเดือนปีเกิด ข้อมูลการติดต่อ (เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล) ประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญในการทำงาน/การประกอบวิชาชีพ ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ และประวัติการสืบค้น ที่ท่านกรอกหรือให้บริษัทฯ ผ่านทางการใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัทฯ ตลอดจนข้อมูลที่ได้จากการใช้งานคุกกี้ตามรายละเอียดที่ได้อธิบายใน ข้อ 9. นโยบายการใช้งานคุกกี้ของบริษัทฯ ด้านล่างนี้ 
4.    บุคคลอื่น ๆ เช่นในกรณีที่ท่านเป็นผู้ขาย ซัพพลายเออร์ หรือผู้ที่ให้บริการกับบริษัทฯ หรือเป็นพนักงานหรือตัวแทนของบุคคลดังกล่าว หรือของหน่วยงานหรือองค์กรที่บริษัทฯ ติดต่อด้วย บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร เพื่อบันทึกในระบบข้อมูลภายในของบริษัทฯ และชำระเงินให้แก่ท่าน และบริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลบางประการของท่าน ได้แก่  ชื่อ-สกุล ชื่อกลาง ข้อมูลการติดต่อ (เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล) ลายมือชื่อ เพื่อใช้ในการติดต่อกับท่าน นอกจากนี้ ในบางกรณีท่านอาจเป็นบุคคลอื่นใดที่ถูกบันทึกภาพไว้โดยกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ  


2.3 บริษัทฯ เก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” อะไรบ้าง  
สำหรับ “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษที่มีลักษณะอ่อนไหวมากกว่าปกติและได้รับการคุ้มครองในระดับที่สูงกว่าปกติภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ เนื่องจากธุรกิจของบริษัทฯ เกี่ยวข้องกับยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ บริษัทฯ จึงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรวบรวม “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” ของท่าน ซึ่งโดยหลัก ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของท่าน นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับศาสนา หรือหมู่เลือดของท่าน เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ปรากฏในบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน 


3. บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร? 


ข้อมูลส่วนบุคคลส่วนใหญ่ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมนั้นเป็นข้อมูลที่ท่านได้ให้กับบริษัทฯ โดยตรง เช่น เมื่อท่านได้ติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ ไม่ว่าด้วยทางวาจาหรืออิเล็กทรอนิกส์ เมื่อท่านได้ขอใช้บริการของบริษัทฯ ดำเนินธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทฯ กรอกแบบฟอร์ม หรือเอกสารอื่นใดให้กับบริษัทฯ ท่านมีสิทธิอย่างสมบูรณ์และมีทางเลือกในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเสมอ ดังนั้น ท่านสามารถปฏิเสธเมื่อบริษัทฯ ขอข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างหนึ่งอย่างใดกับท่านตามที่บริษัทฯ จะได้เรียนให้ท่านทราบในข้อ 8. ของนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ 
ในบางครั้ง บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น ได้แก่ กรณีที่ข้อมูลของท่านอยู่ในฐานข้อมูลที่เป็นสาธารณะ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการอนุญาตการประกอบวิชาชีพ ที่สามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 
โดยส่วนใหญ่ บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ และ/หรือ การให้บริการหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ให้แก่ท่านเท่านั้น โปรดรับทราบว่าท่านมีสิทธิที่จะเลือกไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ อย่างไรก็ตาม การปฏิเสธดังกล่าวอาจเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ที่บริษัทฯ มีต่อท่าน หรือการให้บริการที่ราบรื่น หรือการนำเสนอบริการหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เหมาะสม บริษัทฯ จะจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้สอดคล้องกับความยินยอมใด ๆ ที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถอาศัยเหตุตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านได้ด้วยเช่นเดียวกัน เหตุดังกล่าวรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง 
●    เพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันตามสัญญาของบริษัทฯ หรือในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น 
●    ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมาย 
●    ในกรณีที่จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ (หรือของบุคคลอื่น) ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯ อาศัยเพียงประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ จะคำนึงถึงประโยชน์หรือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ท่านมีในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 
●    ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อผลประโยชน์ที่สำคัญในการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล 
●    ในกรณีที่จำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้อำนาจรัฐ 
4. ทำไมบริษัทฯ จึงเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน? 
เหตุผลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น ขึ้นอยู่กับบริบทความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ท่านและบริษัทฯ มีระหว่างกัน ตัวอย่างของเหตุผลที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน มีดังนี้ 
ในกรณีที่ท่านเป็น “ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ” บริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อเหตุผลดังต่อไปนี้ 
●    เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน 
●    เพื่อเข้าทำสัญญา รวมถึงปฏิบัติตามภาระหน้าที่ใด ๆ ของบริษัทฯ ตามสัญญาดังกล่าว  
●    เพื่อเป็นหลักฐานด้านการประกอบวิชาชีพและความเชี่ยวชาญของท่าน เพื่อว่าจ้างท่านให้ปฏิบัติงานให้แก่บริษัทฯ  
●    เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุน หรืออำนวยความสะดวกให้แก่ท่าน ในการเข้าร่วมการประชุม การสัมมนา รวมถึงการยื่นขอรับการตรวจลงตรา (VISA) และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ท่านเดินทางออกนอกประเทศเพื่อเข้าร่วมการประชุมหรือการสัมมนานั้น ๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาว่าจ้าง สัญญาให้การสนับสนุนระหว่างบริษัทฯ กับท่าน หรือการสนับสนุนระหว่างบริษัทฯ กับท่าน 
●    เพื่อใช้ระบุในแบบฟอร์ม และรายงานหรือแจ้งอาการหรือเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องมาจากการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การรายงานต่อหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือการรายงานต่อองค์กรที่ศึกษาและติดตามความปลอดภัยของยา หรือรายงานต่อบริษัทแม่ในต่างประเทศ (Global Pharmacovigilance) 
●    เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงหน้าที่ของบริษัทฯในการหักภาษี ณ ที่จ่าย และ การนำส่งภาษีดังกล่าวต่อกรมสรรพากร 
●    เพื่อจัดทำบันทึกเกี่ยวกับการเข้าร่วมสัมมนา หรือการประชุมต่าง ๆ ของท่าน 
●    เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินการ และการบริหารจัดการเกี่ยวกับตัวอย่างสินค้าตามขั้นตอนภายในบริษัทฯ ตลอดจนจัดส่งตัวอย่างสินค้าให้แก่ท่าน 
●    เพื่อจัดทำรายงานหรือบันทึกหลังรับการรักษา หรือการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ และ 
●    เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบก่อนหรือในขณะที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 
ในกรณีที่ท่านเป็น “ลูกค้า” “ผู้เข้ารับการรักษา” หรือ “ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์” บริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อเหตุผลดังต่อไปนี้ 
●    เพื่อการเข้าทำสัญญากับท่าน ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ใด ๆ ของบริษัทฯ ตามสัญญาดังกล่าว  
●    เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ หรือให้บริการใด ๆ แก่ท่าน ซึ่งรวมถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นของรางวัลสำหรับท่านที่เป็นผู้ชนะในกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยบริษัทฯ 
●    เพื่อใช้ระบุในแบบฟอร์ม และรายงานหรือแจ้งอาการหรือเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องมาจากการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การรายงานต่อหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือการรายงานต่อองค์กรที่ศึกษาและติดตามความปลอดภัยของยา หรือรายงานต่อบริษัทแม่ในต่างประเทศ (Global Pharmacovigilance) 
●    เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินการ และการบริหารจัดการเกี่ยวกับตัวอย่างสินค้าตามขั้นตอนภายในบริษัทฯ ตลอดจนจัดส่งตัวอย่างสินค้าให้แก่ท่าน 
●    เพื่อเก็บบันทึกเป็นหลักฐานว่าท่านให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเข้ารับการรักษา 
●    เพื่อจัดทำรายงานหรือบันทึกหลังรับการรักษา หรือการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ 
●    เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ 
●    เพื่อดำเนินการ และทำให้สำเร็จลุล่วงซึ่งธุรกรรมใด ๆ ตามที่ท่านร้องขอ 
●    เพื่อการศึกษา การสำรวจ การวิจัย หรือการวิจัยทางคลินิก เก็บไว้เป็นฐานข้อมูล และเพื่อตีพิมพ์ประกอบการศึกษา การสำรวจ การวิจัย หรือการวิจัยทางคลินิก 
●    เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด และการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัทฯ และ 
●    เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบก่อนหรือในเวลาที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 
ในกรณีที่ท่านเป็น “ผู้เข้าเยี่ยมชม/ผู้ใช้บริการเว็บไซต์” ของบริษัทฯ บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเพื่อเหตุผลดังต่อไปนี้ 
●    เพื่อตอบข้อสอบถาม หรือให้คำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ 
●    เพื่อให้บริการ ดำเนินการ และทำให้สำเร็จลุล่วงซึ่งธุรกรรมใด ๆ ตามที่ท่านร้องขอ 
●    เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบก่อนหรือในเวลาที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 
●    สำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากการใช้งานคุกกี้ โปรดดูรายละเอียดในข้อ 9. นโยบายการใช้งานคุกกี้ของบริษัทฯ 
ในกรณีที่ท่านเป็น “บุคคลอื่นๆ” นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาข้างต้น บริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อเหตุผลดังต่อไปนี้ 
●    เพื่อการติดต่อสื่อสารกับท่าน และเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในทางธุรกิจระหว่างบริษัทฯ กับท่าน 
●    เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการชำระเงินแก่ท่าน ตลอดจนจัดทำการหักภาษี ณ ที่จ่าย  
●    เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบและรับรองบัญชี 
●    เพื่อจัดทำบันทึกข้อมูลภายในระบบของบริษัทฯ เพื่อดำเนินการต่างๆ ข้างต้น  
●    เพื่อวัตถุประสงค์เพื่อการรักษาความปลอดภัย และ 
●    เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบก่อนหรือในเวลาที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 
สำหรับ “ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว” ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็สามารถอาศัยเหตุตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่านโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านได้ด้วยเช่นเดียวกัน ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะกระทำโดยจำกัด และอยู่ในขอบเขตเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน มีดังต่อไปนี้ 
●    เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมาย และตามสัญญาของบริษัทฯ 
●    เพื่อใช้ระบุในแบบฟอร์ม และรายงานหรือแจ้งอาการหรือเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องมาจากการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การรายงานต่อหน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือการรายงานต่อองค์กรที่ศึกษาและติดตามความปลอดภัยของยา หรือรายงานต่อบริษัทแม่ในต่างประเทศ (Global Pharmacovigilance) และ  
●    เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดที่บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบก่อนหรือในเวลาที่บริษัทฯเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน 


5. บริษัทฯ แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับใครบ้าง? 


บริษัทฯ แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคลากรภายในองค์กรของบริษัทฯ ซึ่งหมายถึง พนักงานของ  บริษัทฯ ที่มีหน้าที่หรือเกี่ยวข้องในการจัดการหรือดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทแม่และบริษัทในเครืออื่น ๆ ของบริษัทฯ  
บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ จะขายหรือโอนย้ายธุรกิจหรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน รวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การควบรวมกิจการ การซื้อกิจการ หรือการร่วมทุน 
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สามบางราย ซึ่งรวมถึง หน่วยงานที่มีอำนาจทางกฎหมาย หน่วยงานราชการ และผู้สอบบัญชีภายนอกของบริษัทฯ เท่าที่จำเป็นและตามที่กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง คำสั่งศาล กฎ ข้อกำหนด จดหมายเวียน หรือประกาศใด ๆ ที่ใช้บังคับกับบริษัทฯ กำหนด เช่น บริษัทฯ อาจจะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมสรรพากร ตลอดไปจนถึงบุคคลหรือหน่วยงานอื่น เช่น ที่ปรึกษา หรือผู้ให้บริการอื่น ๆ เท่าที่จำเป็น เพื่อให้พวกเขาสามารถให้บริการแก่บริษัทฯ ได้ 
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่จำเป็นเพื่อแจ้งหรือรายงานอาการหรือเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ไปยังองค์กรที่ศึกษาและติดตามความปลอดภัยของยา หรือรายงานต่อบริษัทแม่ในต่างประเทศ (Global Pharmacovigilance) อีกด้วย  


6. บริษัทฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานแค่ไหน ?  


บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยตามที่ระบุในนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น ทั้งนี้ ในการกำหนดระยะเวลาของการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น บริษัทฯ จะนำเอาหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้มาพิจารณา 
●    บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่ (1) บริษัทฯ ยังคงมีความสัมพันธ์ในทางธุรกิจกับท่าน หรือ (2) บริษัทฯ มีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยตามที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ 
●    บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่ (1) กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนดให้บริษัทฯ ต้องทำเช่นนั้น หรือ (2) เท่าที่เพื่อให้บริษัทฯ สามารถยุติข้อพิพาท หรือก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายได้ เพื่อเป็นข้อมูลแก่ท่าน กำหนดอายุความสูงสุดภายใต้กฎหมายไทยสำหรับคดีแพ่งส่วนใหญ่ คือ 10 ปี แต่สำหรับความผิดทางอาญานั้นอาจนานถึง 10 ปี หรือนานกว่า 10 ปีก็ได้ขึ้นอยู่กับลักษณะของคดีนั้น ๆ 
●    สำหรับระยะเวลาการบันทึกคุกกี้ในการใช้งานเว็บไซต์ กรณีที่ท่านอนุญาตให้บริษัทฯ ใช้คุกกี้ได้นั้น เป็นไปตามที่อธิบายใน ข้อ 9. นโยบายการใช้งานคุกกี้ของบริษัทฯ  
●    นอกจากนี้ ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น (เช่น เมื่อบริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บข้อมูลเพื่อการดำเนินคดีในชั้นศาลที่ได้เริ่มขึ้นแล้ว)  
●    ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจน้อยกว่าที่ระบุข้างต้น เช่น เมื่อท่านมีความประสงค์ให้บริษัทฯ ลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และบริษัทฯ ไม่มีเหตุทางกฎหมายใด ๆ ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป 
หลังจากระยะเวลาการเก็บรักษาสิ้นสุดลง บริษัทฯ จะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้อีกต่อไปด้วยวิธีการที่ปลอดภัยและในลักษณะที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้  


7. ท่านมีสิทธิใดบ้างในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน?  


ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ อย่างไรก็ตาม ท่านอาจไม่ได้มีสิทธิทุกประเภทตามที่บริษัทฯ จะได้อธิบายด้านล่างนี้ เนื่องจากสิทธิของท่านขึ้นอยู่กับลักษณะหรือวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย ดังนั้น เพื่อให้ท่านเข้าใจและทราบถึงสิทธิแต่ละประเภทของท่าน บริษัทฯ จึงสรุปสิทธิทั้งหมดตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด เพื่อเป็นข้อมูลของท่าน ดังต่อไปนี้ 
สิทธิในการถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์ท่านในการทำเช่นนั้น ในการถอนความยินยอมนั้น บริษัทฯ แนะนำให้ท่านแสดงเจตนาถอนความยินยอมของท่านเป็นลายลักษณ์อักษร (รายละเอียดการติดต่อ ระบุอยู่ในข้อที่ 10 ของนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวฉบับนี้) เพื่อเป็นหลักฐานของการถอนความยินยอมดังกล่าว และเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ ได้รับทราบ และจะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นภายในเวลาที่เหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตาม การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย 
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอข้อมูลเกี่ยวกับว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยอย่างไร รวมถึงมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตลอดจนมีสิทธิขอให้บริษัทฯ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านเชื่อว่าบริษัทฯ ได้มาโดยที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม 
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านเชื่อว่าไม่ถูกต้อง หรือไม่สมบูรณ์ ให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้อง หรือสมบูรณ์ได้  
สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงได้รับการยืนยันว่าได้มีการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้อีกต่อไป ภายใต้เงื่อนไขและเหตุบางประการ ตามที่ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ กำหนด ดังนี้ 
●    เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย 
●    เมื่อมีการถอนความยินยอมของท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และ   บริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอีกต่อไป 
●    เมื่อท่านคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบริษัทฯ ไม่มีเหตุตามกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอดังกล่าว หรือ 
●    เมื่อไม่มีเหตุตามกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น  
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในสถานการณ์ต่อไปนี้ 
●    เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอให้ดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ข้างต้น 
●    เมื่อท่านมีสิทธิขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพราะเหตุที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ท่านไม่ต้องการให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว 
●    เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยแล้ว แต่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านมีความจำเป็นต้องใช้เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ 
●    เมื่อท่านคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และอยู่ในระหว่างการตรวจสอบการคัดค้านดังกล่าว 
สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งบริษัทฯ เก็บรวบรวม และทำให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้โดยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้ หรือเปิดเผยด้วยวิธีอัตโนมัติ ให้กับองค์กรอื่น หรือให้กับท่านโดยตรง ตามเงื่อนไขและเหตุที่ระบุไว้ภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ การใช้สิทธิของท่านในเรื่องนี้จะใช้ได้กับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเนื่องจากมีความจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาเท่านั้น 
สิทธิในการคัดค้าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามเงื่อนไขและเหตุที่ระบุไว้ภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ เช่น กรณีดังต่อไปนี้ 
●    เมื่อบริษัทฯ อาศัยเหตุเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่บริษัทฯ สามารถแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยที่สำคัญยิ่งกว่าสิทธิของท่าน หรือกรณีที่เป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย 
●    เมื่อท่านมีสิทธิคัดค้านในกรณีที่การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีวัตถุประสงค์เพื่อการตลาดแบบตรง 
สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการที่มีอำนาจตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ในกรณีที่บริษัทฯ หรือพนักงานของบริษัทฯ ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ หรือประกาศที่ออกภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ดังกล่าว 


8. หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบริษัทฯ ?  


หากท่านปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นสำหรับบริษัทฯ ในการเข้าทำสัญญา หรือให้บริการแก่ท่าน การปฏิเสธดังกล่าวย่อมเป็นอุปสรรคในการบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับท่าน และเป็นอุปสรรคต่อการให้บริการของบริษัทฯ แก่ท่าน การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางประการแก่บริษัทฯ อาจทำให้ท่านไม่ได้รับความสะดวกสบาย หรือถูกจำกัดการเข้าถึงซึ่งบริการที่ดีกว่าหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ท่านจากบริษัทฯ นอกจากนี้ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลบางประการแก่บริษัทฯ บริษัทฯ จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาของบริษัทฯ ได้ เช่น บริษัทฯ อาจจะไม่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ หรือบริษัทฯ อาจจะไม่สามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่ท่านสั่งซื้อ หรือได้รับรางวัลจากบริษัทฯ ได้ และในกรณีที่ท่านเป็นซัพพลายเออร์หรือผู้ขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้แก่บริษัทฯ การไม่ให้ความร่วมมือของท่านอาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถชำระเงินให้แก่ท่านได้ 


9. นโยบายการใช้งานคุกกี้ของบริษัทฯ  


9.1 คุกกี้คืออะไร?  
คุกกี้คือไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ถูกจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตของท่าน คุกกี้ไม่เป็นอันตรายต่อการทำงานของอุปกรณ์ดังกล่าว และไม่เกี่ยวข้องกับไวรัสหรือโปรแกรมแฝงที่เป็นอันตราย เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ คุกกี้จะทำการอนุญาตให้เว็บไซต์จดจำท่านและพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของท่านในแต่ละครั้ง เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้นทุกครั้งที่ท่านเข้าเยี่ยมชม 
การใช้งานคุกกี้ของเว็บไซต์ของบริษัทฯ จะเป็นไปตามตัวเลือกความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้ ท่านสามารถดูได้ว่ามีการใช้คุกกี้ใดบ้าง โดยคลิกที่เมนู นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือ นโยบายคุกกี้ 


9.2 บริษัทฯ ใช้คุกกี้เพื่ออะไร และบันทึกไว้นานเพียงใด 


เว็บไซต์ของบริษัทฯ ใช้คุกกี้เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติมว่าท่านมีรูปแบบและพฤติกรรมในการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ อย่างไร เพื่อช่วยปรับปรุงและเสริมสร้างประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจให้กับท่านมากยิ่งขึ้นทุกครั้งที่ท่านเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ใช้ประเภทของคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ และรายละเอียดตามที่ระบุดังต่อไปนี้ 
ประเภทคุกกี้ที่บริษัทฯ ใช้ 


1.    คุกกี้เพื่อให้ไซต์ทำงานได้ (Site functionality cookies) 
คุกกี้เหล่านี้จะช่วยให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์และคุณสมบัติการใช้งานต่าง ๆ ของเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ เช่น การลงทะเบียน การเข้าสู่ระบบ และรายการผลิตภัณฑ์ที่ท่านชื่นชอบ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้นี้ เว็บไซต์บางส่วนจะไม่สามารถทำงานให้ท่านได้ เช่น การเพิ่มรายการลงในตะกร้าของหรือการชำระเงิน เป็นต้น  
ระยะเวลา : เท่าที่จำเป็น 


2.    คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์ไซต์ (Site analytics cookies) 
คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถวัดและวิเคราะห์ว่าท่านใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มของบริษัทฯ บนโทรศัพท์มือถืออย่างไร เพื่อปรับปรุงการทำงานและประสบการณ์การใช้งานของท่าน 
ระยะเวลา : 180 วัน 


3.    คุกกี้เพื่อจดจำความชื่นชอบของลูกค้า (Customer preference cookies) 
เมื่อท่านเรียกดูเว็บไซต์ของบริษัทฯ คุกกี้เหล่านี้จะจดจำการตั้งค่าของท่าน (เช่น ภาษาหรือตำแหน่ง) และข้อมูลอื่น ๆ ที่ท่านเลือกที่จะให้แก่บริษัทฯ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปรับแต่งประสบการณ์ของท่านและทำให้มีความเกี่ยวข้องและเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลสำหรับท่านมากยิ่งขึ้น 
ระยะเวลา : 180 วัน 

4. คุกกี้เพื่อการโฆษณาหรือพิจารณากลุ่มเป้าหมาย (Advertising or targeting cookiesเ)  

คุกกี้เหล่านี้ใช้เพื่อแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับท่าน โดยจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาและช่วยให้บริษัทฯ สามารถวัดประสิทธิภาพแคมเปญทางการตลาดของบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจใช้ข้อมูลที่ได้รับผ่านคุกกี้เหล่านี้เพื่อโฆษณาสิ่งที่ท่านอาจสนใจโดยพิจารณาจากพฤติกรรมออนไลน์ที่ผ่านมาของท่าน 
ระยะเวลา : 180 วัน 


5.    คุกกี้สำหรับสื่อสังคมออนไลน์ (Social media cookies) 
คุกกี้เหล่านี้ใช้ในกรณีที่ท่านแชร์ข้อมูลลงบนสื่อสังคมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยเครือข่ายสังคมออนไลน์ (social networks) จะบันทึกว่าท่านได้ทำการดังกล่าว และข้อมูลนี้อาจเชื่อมกับกิจกรรมการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย/การโฆษณา 
ระยะเวลา : 180 วัน 
 
9.3  การลบ/ปิดการใช้งานคุกกี้  
ท่านสามารถตั้งค่าการใช้งานคุกกี้ ตลอดจนเปลี่ยนแปลงความยินยอมที่เคยให้เว็บไซต์ของบริษัทฯ ใช้คุกกี้ไว้ก่อนหน้านี้ได้โดยศึกษาวิธีการได้ที่เว็บไซต์ https://www.aboutcookies.org/how-to-control-cookies/ หรือ https://www.about cookies.org/how-to-delete-cookies/ หรือปรับแต่งจากเมนูที่อยู่บนหน้าเว็บไซต์ (ถ้ามี) 
นอกจากนี้ หากท่านเลือกปิดการใช้งานคุกกี้ ท่านเข้าใจและยอมรับว่าประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของท่านอาจไม่สมบูรณ์แบบเท่าที่ควร และในบางกรณีอาจทำให้ท่านไม่สามารถใช้งานหรือเข้าสู่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้เลย  


10.  การติดต่อ 


หากท่านมีสงสัยหรือข้อกังวลใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หรือเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของท่าน หรือหากท่านต้องการใช้สิทธิของท่านภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ ตามที่อธิบายมาข้างต้น โปรดติดต่อบริษัทฯ ได้ที่ 
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer, DPO) ของ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด 
อีเมล: privacy.thailand@galderma.com 
โทรศัพท์: 02-023-1800 
 
ประกาศ ณ วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2564 
ในนามของ บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด